แนวโน้มตลาดปี 2020 - การกระจายการลงทุน

Kelvin Blacklock, Head of Investment Solutions, Eastspring Investments, Singapore, ให้เหตุผลว่าทำไมเขาจึงหันมามองตลาดหุ้นในด้านบวกมากขึ้นในปี 2020 อย่างไรก็ตาม เขาไม่คาดหวังว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการในเชิงโครงสร้างที่มีต่อพันธบัตรยังคงแข็งแกร่ง

1. ทีมมองแนวโน้มมหภาคทั่วโลกในปี 2020 อย่างไร?

มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ความอ่อนแอของวัฏจักรเศรษฐกิจโลกนั้นอาจสิ้นสุดลง ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะทรงตัวจากการสนับสนุนทางนโยบายที่มากขึ้นจากธนาคารกลางทั่วโลกและการหยุดตอบโต้กันชั่วคราวในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ของ JPM Global Manufacturing PMI ลดลงมาแตะจุดต่ำสุดและโมเมนตัม (การเปลี่ยนแปลงระยะ 3 เดือน) กลับมาเป็นบวกในเดือนตุลาคม 2019

รูปที่ 1. ยอดคำสั่งซื้อใหม่ใน JPM Global Manufacturing PMI แสดงทิศทางที่เป็นบวก1

kevin-blacklock-interview-chart-1

ในขณะเดียวกัน ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในสหรัฐยังคงสร้างความประหลาดใจได้อย่างต่อเนื่อง – ในเดือนกันยายน 2019 อัตราการว่างงานของสหรัฐแตะระดับอยู่ที่ 3.5% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี แต่อย่างไรก็ตาม เราสังเกตเห็นตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ทำผลงานได้โดดเด่นและมีการชะลอตัวลง ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ความตั้งใจที่จะขยายงบดุลของธนาคารกลางอีกครั้งจะเป็นสิ่งที่เอื้อต่อสภาวะการเงิน เรื่องนี้ยังอาจเห็นได้ชัดจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่เริ่มออกมาได้เหนือความคาดหมาย

เรามองว่าในช่วงปีใหม่นั้นมีแนวโน้มของนโยบายภาคการคลังผ่อนคลายซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำและการผ่อนคลายเชิงปริมาณที่ผ่านมาล้มเหลวในการช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู้กำหนดนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป ก็มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นที่ต้องการให้รัฐบาลเพิ่มการใช้จ่าย

2.สถานการณ์นี้จะส่งผลต่อหุ้นและพันธบัตรในปีใหม่อย่างไร?

สัญญาณของความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และส่งผลให้ตลาดเกิดใหม่รวมถึงหุ้นคุณค่าจะดีขึ้นและโดดเด่นในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม

เราเชื่อว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะแทบไม่มีสัญญาณการดิ่งลงของภาคการลงทุนหรือเกิดภาวะถดถอย การฟื้นตัวจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับหุ้นที่มีราคาน่าดึงดูดมากกว่าพันธบัตร นอกจากนี้ ยังเป็นผลบวกต่อผลประกอบการของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคการค้า เราสังเกตเห็นว่าแนวโน้มการปรับเพิ่มคาดการณ์ของผลประกอบการทั่วโลกกำลังมีทิศทางที่ดีขึ้น และถ้าหากนโยบายการคลังเป็นลักษณะเชิงรุกมากขึ้นได้จริง ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นได้ด้วย โดยรวมแล้วเรากำลังเปลี่ยนมุมมองเป็นเชิงบวกมากขึ้นต่อตลาดหุ้น

ในปี 2019 นั้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงสู่ระดับที่ต่ำมาก เนื่องจากผู้ลงทุนเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์แบบตั้งรับมากขึ้น เพราะผู้ลงทุนเริ่มกลัวที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่ผู้ลงทุนซื้อพันธบัตรและขายหุ้น กลับได้สร้างสถานการณ์ที่ย่ำแย่เมื่อเจ้าของสินทรัพย์ดำเนินการป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน (ด้วยการซื้อพันธบัตรเพิ่ม) ขณะความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไประหว่างอัตราผลตอบแทนและราคาของพันธบัตรเริ่มเข้ามาส่งผลกระทบ สภาวะเช่นนี้ได้สร้างความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับ “สินเชื่อปลอดภัย” ซึ่งช่วยคุมส่วนต่างของตราสารหนี้ภาคเอกชน

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไม่น่าจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร เนื่องจากเจ้าของสินทรัพย์ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงทางด้าน duration (อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้) ไว้อย่างเพียงพอ และมีผลให้ความต้องการในการป้องกันความเสี่ยง structural duration ยังคงแข็งแกร่งมาก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่กำลังเข้าสู่ปี 2020 เราได้ปรับ duration (อายุเฉลี่ย) ของพันธบัตรสหรัฐและสหภาพยุโรปในพอร์ตการลงทุนของเราหลังจากดำเนินการไปได้ด้วยดี

3. มุมมองต่อตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดเกิดใหม่เป็นอย่างไร?

เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีเนื่องจากภาคการบริโภคยังคงได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและไม่มีปัญหาเงินเฟ้อ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงสร้างความประหลาดใจทางด้านบวกต่อไป แม้ว่าความแปลกใจเหล่านั้นจะลดน้อยลง ก้าวแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของสหรัฐยังช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสที่น่าสนใจจากกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอื่นๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐ แม้ว่าเราได้เห็นความเชื่อมั่นที่มีต่อผลประกอบการในสหรัฐอ่อนตัวลงในช่วงปี 2019

ความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอาจเป็นตัวกระตุ้นให้ปลดล็อคโอกาสในการประเมินมูลค่าได้อย่างมากในตลาดเกิดใหม่ (EM) และสินทรัพย์ในเอเชีย โดยในตอนนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินของกลุ่มประเทศ G10 ทั้งนี้ การส่งเงินกลับประเทศอย่างต่อเนื่องสำหรับกิจการในต่างประเทศของธุรกิจสหรัฐ จะช่วยรักษาสภาพคล่องเงินดอลลาร์ในสหรัฐฯ และความตึงตัวในภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ซึ่งความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ดีขึ้นจะช่วยลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์ และช่วยลดทอนความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ลง

เราเปลี่ยนมามีมุมมองที่เป็นบวกต่อ EM มากขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อผลประกอบการและการเติบโตที่ดีขึ้น ซึ่งนอกเหนือจาก EM แล้ว ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเศรษฐกิจในประเทศที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นออกมาดีขึ้นและในที่สุดตลาดอาจตอบแทนเรื่องผลประกอบการที่โดดเด่นหากความเชื่อมั่นฟื้นตัว นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายด้านทุนจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุน อันเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

4. พันธบัตรผลตอบแทนสูงได้รับประโยชน์จากปรากฏการณ์แสวงหาผลตอบแทน (search for yield) แต่ด้วยอัตราผลตอบแทนที่ลดลง ผู้ลงทุนจะได้รับการชดเชยความเสี่ยงอย่างเพียงพอหรือไม่?

พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงของธุรกิจสหรัฐได้เผชิญกับภาวะ de-leveraging มาตลอดช่วงสองสามปีที่ผ่านมาและคุณภาพสินเชื่อปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่พันธบัตรผลตอบแทนสูงในเอเชียนั้นได้ให้อัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจมากกว่าเมื่อเทียบกับคู่ค้าของตนอย่างสหรัฐ ภายใต้ความผันผวนในแบบเดียวกัน

หากมองไปข้างหน้า ภายใต้ภาวะดอกเบี้ยโลกที่ยังหยุดนิ่ง เราสามารถคาดหวังผลตอบแทนรวมที่สูงขึ้นจากพันธบัตรผลตอบแทนสูง ความคาดหวังของเราในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในประเทศจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 50% ของตลาดพันธบัตรผลตอบแทนสูงในเอเชีย ยังได้ช่วยสนับสนุนมุมมองเชิงบวกที่มีต่อพันธบัตรผลตอบแทนสูงในเอเชีย

อย่างไรก็ตาม เรายังคงระมัดระวังและยังจับคู่พันธบัตรรัฐบาลกับพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐอเมริกาและเอเชีย เพื่อสร้างกระแสรายได้และความมั่นคงในพอร์ตการลงทุนของเราที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้างรายได้

5. การที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรุ่นอายุ 10 ปีได้ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมีการกระจุกตัวของพอร์ตอยู่ในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ยังทำให้สินทรัพย์ประเภทนี้เป็นเครื่องช่วยกระจายความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพหรือไม่?

เราคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าเฟดมีท่าทีหยุดปรับดอกเบี้ยชั่วคราวในวัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ย แต่ก็พร้อมที่จะผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยต่อไปหรือเริ่มการผ่อนคลายเชิงปริมาณอีกครั้งหากภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น สภาวะเช่นนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อพันธบัตรรัฐบาล

ในขณะเดียวกัน แม้ดูเหมือนว่าจะมีการกระจุกตัวอยู่ในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แต่อัตราผลตอบแทนยังคงน่าสนใจเมื่อเทียบกับเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลของตลาดพัฒนาแล้วแห่งอื่นๆ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและแรงกดดันเงินเฟ้อที่มีน้อย สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าความต้องการผลตอบแทนที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนักลงทุนในยุโรปและญี่ปุ่น จะช่วยจำกัดการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงมีความผันผวนต่ำและมีความสัมพันธ์ระยะยาวกับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ น้อย ทำให้สินทรัพย์นี้ยังคงเป็นเครื่องช่วยกระจายการลงทุนที่มีประสิทธิภาพในพอร์ตการลงทุนแบบผสมหลายสินทรัพย์

6. พันธบัตรและหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากพร้อมๆ กันในปี 2019 นั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างตลาดในรูปแบบเดิมได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่?

การมีอยู่ของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณที่ดำเนินการโดยธนาคารกลาง ณ วันนี้ และโอกาสที่มีอยู่น้อยในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้หุ้นได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้ราคาหุ้นและราคาตราสารหนี้ปรับตัวสูงขึ้นได้พร้อมๆ กัน

ราคาหุ้นและพันธบัตรมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง (เช่นวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกหรือภาวะถดถอย) เมื่อนักลงทุนต้องการค่าพรีเมียมในหุ้นที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับค่าพรีเมียมสำหรับพันธบัตร ลักษณะนี้เรียกว่า “การเดินทางสู่ความปลอดภัย” ที่ทำให้ราคาพันธบัตรและราคาหุ้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่แตกต่าง สถานการณ์เหล่านี้เปิดโอกาสให้แก่ผู้จัดสรรสินทรัพย์ในการเพิ่มมูลค่า

ความสัมพันธ์ในระยะยาว (~ 20 ปี) ระหว่างราคาหุ้นและราคาพันธบัตรนั้นเป็นบวกได้เล็กน้อย แต่แม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ในเชิงบวก แต่การเพิ่มประสิทธิภาพของการผสมผสานกลุ่มสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนสามารถช่วยทำให้อัตราส่วน Sharpe ratios ดีขึ้น และให้ผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยง (risk-adjusted returns) ดีขึ้นด้วย

ในขณะที่ความสัมพันธ์ของตลาดในระยะสั้นอาจเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น หากมีการยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ แต่ความสัมพันธ์ระยะยาวที่ใช้ในการกระจายสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์มีแนวโน้มที่จะยังคงเหมือนเดิม

7. ด้วยผลตอบแทนที่น้อยลงจากสินทรัพย์แบบเดิม คุณมองเห็นทางเลือกที่มีความสำคัญมากขึ้นในพอร์ตการลงทุนแบบผสมหลายสินทรัพย์หรือไม่?

สถานะอันเหมาะสมสำหรับพอร์ตโฟลิโอแบบผสมหลายสินทรัพย์ก็คือ การมีหลายๆ สินทรัพย์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันและสร้างผลตอบแทนเป็นบวก แม้จะสามารถเพิ่มสินทรัพย์ทางเลือกเข้าไปในพอร์ตการลงทุนแบบผสมหลายสินทรัพย์ แต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องจัดโครงสร้างและมีการควบคุมในลักษณะที่ทำให้สามารถลงทุนได้

ในขณะนี้ เรายังคงระมัดระวังในเรื่องกลุ่มสินทรัพย์ เนื่องจากค่าคาดการณ์อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ลดลงซึ่งเป็นไปตามสภาวะที่มีนักลงทุนจำนวนมากรีบไขว่คว้าการลงทุนเหล่านี้และผลักดันให้ราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อว่าจะมีโอกาสในการเก็บเกี่ยวสินทรัพย์ที่มีราคาน่าดึงดูดในช่วงระยะไม่กี่ปีข้างหน้านี้

เรายังคงชอบอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและระดับเงินเฟ้อที่สนับสนุนในเรื่องมูลค่า นอกจากนี้กลุ่มสินทรัพย์นี้ควรได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและประชากรที่มั่งคั่งเพิ่มมากขึ้นในเอเชีย

Sources:
1 Refinitiv. Datastream. October 2019. Please refer to www.eastspring.com/reference-index-list for more details on the indices.

This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.