One-Man Rule: กลยุทธ์การลงทุนหลัง สี จิ้นผิง รวบอำนาจ

สรุปประเด็นสำคัญ

  • สี จิ้นผิง แต่งตั้งสมาชิก standing committee เป็นคนที่เคยทำงานหรือสนิทกับ สี จิ้นผิง ด้วยกันทั้งสิ้น ทำให้ตลาดกังวลว่าเป็นการรวบอำนาจของตนเองให้มากขึ้น
  • ในกรรมการทั้งหมด 24 ท่านของ Politburo มีสัดส่วนของผู้บริหารรัฐวิสาหกิจด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น สะท้อนว่าจีนจะเร่งพัฒนาด้านเทคโนโลยี
  • นโยบาย Covid-Zero, Common Prosperity, Tech Crackdown มีแนวโน้มดำเนินต่อไป
  • นโยบายต่างประเทศอาจมีทิศทางที่แข็งกร้าวมากขึ้นตั้งแต่ ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐฯ
  • เรามองว่าตลาด overreact มากเกินไป และเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้นจีน onshore

7 Standing Committee

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เปิดเผยทีมงานที่จะเป็นสมาชิกของ STANDING COMMITTEE อีก 6 ท่าน ซึ่งทั้ง 6 ท่านเป็นคนสนิทหรือเคยร่วมงานกับ สี จิ้นผิง มาแล้วทั้งหมด ทำให้เกิดความกังวลว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังรวบอำนาจมากขึ้น ขณะที่นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ประกาศเกษียณอายุและจะลาตำแหน่งในเดือนมีนาคมปีหน้าหลังจากดำรงตำแหน่งมา 1 ทศวรรษ

one-man-rule-fig1

หลี่ เฉียง, 63

เลขาธิการพรรคประจำมหานครเซี่ยงไฮ้ โดยถูกวิจารณ์หลังจากการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเซี่ยงไฮ้ ก่อนลงเอยด้วยการล็อกดาวน์ทั้งหมด ก่อนประกาศชัยชนะในการปกป้องศูนย์กลางทางการเงินโดยอธิบายถึงการล็อกดาวน์ว่า “ถูกต้องโดยสมบูรณ์” และเขายังให้เครดิตกับ “คำแนะนำที่สำคัญของ สี จิ้นผิง” นอกจากนี้ผลงานที่สำคัญของเขาคือการที่เขาพยายามเปิดเศรษฐกิจเพื่อดึงดูชาวต่างชาติมากขึ้นในกรุงเซี่ยงไฮ้

ตำแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ – นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีนต่อจาก หลี่ เค่อเฉียง

จ้าว เล่อจี้, 65

ในฐานะผู้นำในการต่อต้านการรับสินบนของจีน จ้าว เล่อจี้ ได้กลายเป็นหัวหอกในการปราบปรามการทุจริตที่กวาดล้างคู่แข่งทางการเมืองของ สี จิ้นผิง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นเขาได้ช่วยยกระดับพันธมิตรของผู้นำจีนในฐานะหัวหน้าแผนกองค์กรที่ทรงพลังซึ่งเป็นหน่วยงานหลักสำหรับการแต่งตั้งบุคลากรทั่วประเทศ

ตำแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ – Head of the National People Congress

หวัง ฮู่หนิง, 67

ตลอดหลายทศวรรษของการต่อสู้แย่งชิงอำนาจและการเปลี่ยนผ่านในหมู่ชนชั้นสูงของจีน หวัง ฮู่หนิง เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อยู่อย่างสบายภายในวงในของผู้นำ โดยเป็นทั้งมันสมองและกุนซือในการวางหมากทางการเมืองมาตลอด 3 ยุคตั้งแต่ เจียง เจ้อหมิน, หู จินเทา และ สี จิ้นผิง

ตำแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ – Head of the advisory Chinese People’s Political Consultative Conference

ไช่ ฉี, 66

ไช่ ฉี ก้างหน้าอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของ สี จิ้นผิง โดยเคยได้ทำงานร่วมกันทั้งในจังหวัดชายฝั่งที่สำคัญอย่างเจ้อเจียงและฝูเจี้ยน นอกจากนี้ยังได้เข้ารับตำแหน่งใน Politburo แบบ Fast Track อีกด้วย และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการพรรคของปักกิ่งในปี 2017 บทบาทสำคัญๆคือทำให้ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งแรกของจีน

ตำแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ – Head of the Central Secretariat

ติง ซู่เสียง, 60

ไม่เคยเป็นดำรงตำแหน่งในระดับสูงมาก่อน ขณะที่ประวัติการทำงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหลัก ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการสนับสนุนและมีบทบาทมากขึ้นในพรรค

ตำแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ – Executive vice premier

หลี่ ซี, 66

หลี่ ซี รู้จักกับ สี จิ้นผิง มาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำมณฑลกวางตุ้งซึ่งเป็นมณฑลที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และได้เข้าสู่ Politburo ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19 ในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูง และได้รับความไว้วางใจให้ปราบปรามเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการซื้อเสียงและบิดเบือนข้อมูลทางเศรษฐกิจ

ตำแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ – Chief of the anti-corruption body, the Central Commission for Discipline Inspection

นัยยะต่อการดำเนินนโยบาย

การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จบด้วยการที่ ปธน สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานาธิบดี ในสมัยที่ 3 ต่อไป พร้อมกับเลือกกรรมการที่เป็นผู้สนับสนุนตนเองเข้ามาด้วยกันทั้งหมด ทำให้รอบนี้ สี จิ้นผิง จะมีอำนาจในการบริหารประเทศมากขึ้น โดยนโยบายต่างๆจะมีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ในตำแหน่งระดับกลางพอเห็นการแต่งตั้งบุคคลที่เน้นการเติบโตอยู่บ้าง โดยคณะกรรมการ Politburo 24 ท่านในรอบนี้ มีสัดส่วนของผู้บริหารรัฐวิสาหกิจด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ เหอ ลี่เฟง ขึ้นมาเป็นตัวเต็งในตำแหน่งรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจแทน หลิว เหอ และได้รับเลื่อนเข้าสู่ Politburo เช่นกัน ซึ่งคุณ เหอ ลี่ เฟง มีแนวความคิดเป็นแบบ Pro-Growth มากกว่า

one-man-rule-fig2

จากผลการประชุมทำให้ตลาดกังวัลว่าการที่ สี จิ้นผิง มีอำนาจมากขึ้น จะทำให้เค้าสามารถดำเนินนโยบายต่างๆได้เข้มงวด และรุนแรงมากขึ้น โดยไม่มีคนขัดแย้งหรือเห็นต่างได้เหมือนเมื่อก่อน ซึ่งในประเด็นนี้เรามองว่ามองได้ 2 ด้าน คือ 1. ถ้านโยบายออกมาดีก็จะดีไปเลย กับ 2. ถ้านโยบายออกมาไม่ดีก็จะแย่ไปเลย แต่ในตอนนี้ยังคงเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบจากการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 20 โดยทิศทางนโยบายต่างๆน่าจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นหลังนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ลงจากตำแหน่งในเดือนมีนาคม 2023 อย่างไรก็ตามจากการกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงพิธีเปิดกับพิธีปิดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พอจะบอกใบ้แนวทางของนโยบายต่างๆได้บ้างเช่นกัน

นโยบายในประเทศ

สิ่งที่ สี จิ้นผิง น่าจะดำเนินการต่อไป คือ

  • นโยบาย Covid-Zero ที่ตอนแรกตลาดหวังว่าจะมีการผ่อนคลายในปีนี้ แต่ด้วยท่าทีของ สี จิ้นผิง แล้ว ทำให้นโยบายนี้มีโอกาสดำเนินต่อไปจนถึงปีหน้า จนกว่าจีนจะสามารถผลิตวัคซีน mRNA ของตนเองออกมาใช้ได้
  • นโยบาย Common Prosperity ที่ สี จิ้นผิง ออกยืนยันแล้วว่าจะใช้ต่อไป แม้ว่าในปีนี้เราจะไม่ค่อยเห็นการเข้ามาปราบปรามก็ตาม เนื่องจากเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ แต่ในภาพรวมแล้วจีนจะยังคงใช้นโยบายดังกล่าวต่อไป
  • จัดการภาคอสังหาฯที่ซบเซา โดยเราน่าจะได้เห็นการดำเนินนโยบายที่จริงจังมากขึ้นในการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เพราะภาคอสังหาฯเป็นส่วนสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
  • การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งในปัจจุบันกำลังถูกสหรัฐฯออกมาตรการควบคุมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราน่าจะได้เห็นการลงทุนอย่างมหาศาลในส่วนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นเทคโนโลยีต้นน้ำ กับกลางน้ำ

นโยบายต่างประเทศ

  • เรามีโอกาสเห็นท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นกับสหรัฐฯและชาติตะวันตก เพราะ สี จิ้นผิง อยากให้จีนมีอิทธิพลมากขึ้นในเวทีโลก
  • นโยบาย common prosperity และ tech crackdown จะกระทบหุ้นจีน offshore ต่อไปโดยเฉพาะกลุ่ม big tech อย่าง Alibaba และ Tencent
  • นโยบายจีนเดียวจะรุนแรงมากขึ้น โดยเราอาจได้เห็นการสร้างแรงกดดันต่อไต้หวันและฮ่องกงมากขึ้น รวมถึงอาจเข้ายึดได้เช่นกัน
  • หุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯอาจกลับมาถูกกดดันจากประเด็น delisting อีกครั้ง เพราะจีนพยายามแข่งขันกับสหรัฐฯ

ผลกระทบกับกองทุนหุ้นจีนช่วงที่ผ่านมา

ในช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันกองทุนหุ้นจีนได้รับผลกระทบจากนโยบาย Zero Covid ,Common Prosperity และเศรษฐกิจในจีนเกิดการชะลอตัว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นจีนปรับตัวลดลง โดยผลตอบแทนกองทุนหุ้นจีน (YTD as of 21/Oct/2022) กองทุน TMB China A Active ติดลบ -36.22% , TMB China Opportunity ติดลบ -33.41% , TMB CHEQ ติดลบ -23.17% และ TMB-ES-STARTECH ติดลบ -37.60%

การคาดการณ์การเติบโตของกำไร และ ระดับมูลค่าของหุ้นจีน

ขณะที่ระดับราคาของการซื้อขาย (Valuation)ของหุ้นจีนปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูกโดย Forward P/E ของหุ้นจีน H-Shares อยู่ที่ 7.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี ในระดับ -1.2SD ขณะที่ของหุ้นจีน A-Shares อยู่ที่ 11.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี ในระดับ-0.3SD

หากพิจารณาถึงการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนของจีนในปี 2023 และ 2024 พบว่า EPS Growth หุ้นจีน H-Shares อยู่ที่ 11.54% และ 11.08% หุ้นจีน A-Shares 16.94% และ 14.15% หุ้นจีน Star50 อยู่ที่ 45.64% และ34.87% ตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นระดับการเติบโตของกำไรที่อยู่ในระดับน่าสนใจ

one-man-rule-fig3

มุมมองต่อการลงทุนหุ้นจีนในระยะถัดไป

ทีมกลยุทธ์มองว่ามองเป็นกลางต่อหุ้นจีน onshore และมีโอกาสได้แรงหนุนเข้ามามากขึ้นจากการดำเนินนโยบายที่เป็นเอกภาพ และการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ โดยคนที่เข้ามารับตำแหน่งนายกฯต่อจาก หลี เค่อเฉียง คือ หลี่ เฉียง ผู้บริหารนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นนครที่มี GDP มากสุดในประเทศจีน และจากผลงานด้านเศรษฐกิจที่ผ่านมาที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จในการบริการเซี่ยงไฮ้ ทำให้เรามองว่าอาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนเพิ่มขึ้น ประกอบกับจีนต้องหันมาพึ่งพาการเติบโตจากภายในประเทศมากขึ้นหลังจากสหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน

ขณะที่หุ้นจีน offshore เรามีมุมมองว่ายังคงมี downside risk มากกว่าและอาจจะซบเซาไปอีกซักพักจนกว่าจะมีทิศทางนโยบายที่ชัดเจนออกมา

โดยเฉพาะประเด็นการปราบปรามหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่และการถอดถอนหุ้นจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่นโยบาย common prosperity มีโอกาสดำเนินต่อไปซึ่จะกดดันกำไรของบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้นแล้วในภาพรวม เรามองว่าหุ้นจีน onshore ดูดีกว่าหุ้นจีน offshore ในระยะถัดไป และหุ้นจีนขนาดกลาง/ขนาดเล็กก็ดูดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามการที่ตลาดกังวลและเทขายหุ้นจีนออกหลังสิ้นสุดการประชุม เรายังมองว่าตลาด overreact มากเกินไปทั้งๆที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ valuation ของหุ้นถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก ทำให้เราแนะนำให้นักลงทุนอาจอาศัยจังหวะนี้ในการเข้าทะยอยหุ้นจีน onshore อย่างกองทุน TMB-ES-CHINA-A และหุ้นจีนในอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้นน้ำอย่าง TMB-ES-STARTECH สำหรับนักลงทุนที่หวังการเติบโตในระยะยาว และแนะนำถือครองสำหรับผู้ที่มีอยู่

คำเตือน

  • ข้อมูล คำแนะนำบทวิเคราะห์ และการแสดงความเห็นต่างๆ ที่ปรากฎอยู่ในบทความนี้ จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้น โดยไม่มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้นำให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในบทความฉบับนี้ และไม่ถือเป็นการให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนของบริษัทต่างๆ ตามที่ระบุหรือถูกกล่าวถึงไว้ในบทความนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความครบถ้วนสมบูรณ์หรือถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้ หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำ ข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฏในบทความฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ
  • ความคิดเห็นใดๆ ในบทความฉบับนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของทีมผู้เขียน มิได้เป็นความคิดเห็นอย่างเป็นทางการของ บลจ.อีสท์สปริง ดังนั้น บลจ.อีสท์สปริง จึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เอกสารควรใช้คู่กับหนังสือชี้ชวน
  • การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงในการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนมากกว่าหรือน้อยกว่าการลงทุนเริ่มแรกก็ได้ และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้
  • แม้ว่ากองทุนรวมตลาดเงินลงทุนได้เฉพาะทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสขาดทุนได้ การลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินไม่ใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน
This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.