เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายดอกเบี้ยขาขึ้น…Time to Tech Turnaround

Our Key Takeaways

  • รายงานการประชุมเฟดระบุคณะกรรมการคาดการณ์ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
  • อย่างไรก็ตามคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่คิดว่าควรขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.50%
  • ตลาดเริ่มเพิ่มโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเฟด 3 ครั้งถัดไป
  • ทั้งนี้ตลาดหุ้นไม่ได้เซอร์ไพร์สมากนักเนื่องจากตลาดยังคงเชื่อว่าเราอยู่ในช่วงท้ายของวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ย
  • ทางทีมกลยุทธ์มีมุมมองว่า เฟดจะสิ้นสุดการขึ้นดอกเบี้ยในครึ่งปีแรก ก่อนที่จะคงดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง ขณะที่เฟดมีช่องว่างให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกไม่มากเนื่องจาก spread ระหว่างอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราดอกเบี้ยกลับมาติดลบ
  • โอกาสการเกิด recession ในสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวลง ขณะที่ตลาดรับข่าวการเกิด recession ไปเยอะแล้ว ดังนั้นถ้าไม่เกิด recession จริงๆ ตลาดหุ้นมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นขาขึ้น
  • หุ้นสหรัฐฯโดยเฉพาะกลุ่ม IT ฟื้นตัวได้โดดเด่นหลังตลาดผ่านจุดต่ำสุดทั้ง 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี
  • แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มเติบโต เช่น TMB-ES-GCG, TMBGQG, TMBUSBLUECHIP และหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง ES-USTECH ที่มีโอกาส outperform ได้เมื่อตลาดกลับตัวเป็นขาขึ้น

รายงานการประชุมเฟดเผยเตรียมขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงคาดการณ์ว่าต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นจะมีความจำเป็นในการทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ระหว่างการประชุมเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคณะกรรมการเกือบทั้งหมดสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง

โดยเฟดระบุในรายงานการประชุมว่าจะต้องมีการรักษาจุดยืนของนโยบายที่เข้มงวดจนกว่าข้อมูลที่เข้ามาจะให้ความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในเส้นทางที่ลดลงเข้าสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนซึ่งจะใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง” นอกจากนี้รายงานการประชุมยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ “เกือบทั้งหมด” เห็นพ้องกันว่าเหมาะสมแล้วที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในขณะที่ “ไม่กี่คน” ที่สนับสนุนหรืออาจสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.50%

หลังจากการเผยแพร่รายงานการประชุม นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังคงผลักดันอัตราดอกเบี้ย terminal rate ให้สูงขึ้น โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม พฤษภาคม และมิถุนายน พร้อมกับคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะไปสูงสุดที่ประมาณ 5.36%

ตลาดหุ้นไม่ได้เซอร์ไพร์สกับนโยบายของเฟดเหมือนอดีต

tech-turnaround-graph-1

ตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 แม้ว่าจะกำลังเป็นช่วงที่เฟดกำลังเร่งขึ้นดอกเบี้ยอยู่ โดยสาเหตุหลักมาจากการที่ตลาดได้รับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดล่วงหน้าไปมากแล้วนั่นเอง ขณะที่ดัชนี Financial Condition ก็เริ่มปรับตัวเป็นขาขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนว่าภาวะการเงินของสหรัฐฯเริ่มตึงตัวน้อยลงเรื่อยๆ และเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง

อย่างไรก็ตามในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณ hawkish อย่างต่อเนื่องหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมกราคมออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลง แต่ข้อสังเกตุคือแม้ว่าเฟดจะส่งสัญญาณ hawkish มากขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ย terminal rate ที่มีโอกาสสูงขึ้น ตลาดหุ้นกลับปรับตัวลงน้อยกว่าการส่งสัญญาณ hawkish ในรอบก่อนๆของเฟด ขณะที่ Financial Condition ก็ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สะท้อนว่าตลาดยังคงเชื่อว่าเฟดอยู่ในช่วงท้ายๆของวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยแล้วนั่นเอง

tech-turnaround-graph-2

นอกจากนี้เองถ้าเราดูตัวเลขดัชนีการใช้จ่ายผู้บริโภคพื้นฐาน หรือ Core PCE เทียบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะพบว่า Core PCE ได้มีการปรับตัวลงมาแล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนในปัจจุบันส่วนต่างระหว่าง Core PCE กับ FED Fund Rate (Spread) กลับมาติดลบอีกครั้ง จึงเหลือช่องว่างให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้อีกไม่มากแล้ว ซึ่งทางทีมกลยุทธ์คาดว่าเฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสูงสุดที่ 5.25% หรือเต็มที่ก็ 5.5% ภายในครึ่งปีแรก ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง

tech-turnaround-graph-3

นอกจากนี้เองการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาคแรงงาน ยังทำให้เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่อไปได้อีก โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือ recession โดยความน่าจะเป็นของการเกิด recession ทั้งในสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวลงแล้วในปีนี้ ขณะที่ตลาดได้รับข่าวการเกิด recession ไปเยอะมากแล้ว ซึ่งถ้าสุดท้ายแล้วเฟดสามารถทำ soft landing ได้จริงๆ ตลาดหุ้นก็มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้เช่นกัน

ถึงเวลาของหุ้นเทคโนโลยี

จากสถิติในวิกฤติรอบที่ผ่านๆมาหุ้นเทคฯมักเป็นกลุ่มฟื้นตัวได้ดีหลังตลาดผ่านจุดต่ำสุด โดยสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ซึ่งแม้ว่าในรอบปัจจุบันหุ้นกลุ่ม IT จะปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดมาแล้วประมาณ 11% ทางทีมกลยุทธ์ยังมองว่าหุ้นกลุ่ม IT ยังคงมี upside อยู่ในระยะถัดจากนี้ และยังไม่สายเกินไปที่จะเข้าลงทุน

tech-turnaround-graph-4tech-turnaround-graph-5

นอกจากนี้ในมิติของการเติบโตของกำไรหรือ EPS Growth นั้น หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยียังมี EPS Growth ในระดับที่น่าสนใจในอีก 2 ปีถัดไปอีกเช่นกัน ขณะที่หุ้น Top10 ในพอร์ตของกองทุน ES-USTECH จะปรับตัวขึ้นมาในปีนี้แล้วก็ตาม แต่นักวิเคราะห์ในตลาดก็ยังประเมินว่าหุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังคงมี upside ในระดับเกิน 10% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ดังนั้นโดยสรุปแล้วแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯจะออกมาสูงกว่าคาด และเฟดส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ตลาดหุ้นไม่ได้เคลื่อนไหวผันผวนหรือถูกเทขายแรงๆเหมือนปีที่ผ่านมา แต่เป็นการย่อตัวลงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเรากำลังอยู่ในช่วงท้ายๆของวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยแล้วนั่นเอง และอัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะแตะระดับสูงสุดในครึ่งปีแรก

ดังนั้นเราแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มเติบโตมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และมีคุณภาพสูง โดยกองทุนแนะนำได้แก่ TMB-ES-GCG, TMBGQG และ TMBUSBLUECHIP และหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง ES-USTECH ที่มีโอกาส Outperform ได้เมื่อตลาดกลับตัวเป็นขาขึ้น

คำเตือน

  • ข้อมูล คำแนะนำบทวิเคราะห์ และการแสดงความเห็นต่างๆ ที่ปรากฎอยู่ในบทความนี้ จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้น โดยไม่มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้นำให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในบทความฉบับนี้ และไม่ถือเป็นการให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนของบริษัทต่างๆ ตามที่ระบุหรือถูกกล่าวถึงไว้ในบทความนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความครบถ้วนสมบูรณ์หรือถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้ หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำ ข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฏในบทความฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ
  • การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงในการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนมากกว่าหรือน้อยกว่าการลงทุนเริ่มแรกก็ได้ และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้
  • แม้ว่ากองทุนรวมตลาดเงินลงทุนได้เฉพาะทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสขาดทุนได้ การลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินไม่ใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน
This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.