บทสรุป

 

เฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม แต่จับตาสถานการณ์การว่างงานอย่างใกล้ชิด แถลงการณ์การประชุม FOMC เดือนมกราคมและการแถลงข่าวของประธานเฟด นายพาวเวล มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ตลาดมองว่าเป็นท่าทีที่เข้มงวดขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้การคาดการณ์ของตลาดต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลดลง อย่างไรก็ตาม มุมมองของเราดูแตกต่างออกไปบ้าง ด้วยนัยยะจากคำกล่าวของประธานพาวเวลว่ายังคงโน้มเอียงไปในทิศทางการผ่อนคลายนโยบายการเงินเช่นเดิม ทั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนว่าเฟดกำลังติดตามข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายครั้งต่อไป แต่เราสังเกตเห็นว่าเฟดให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความอ่อนแอที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน ซึ่งชี้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมยังมีความเป็นไปได้ แม้ว่าโอกาสที่จะมีการปรับลดในเดือนมีนาคมจะน้อยมากก็ตาม

ตลาดได้ตีความประเด็นสำคัญสองประการจากการประชุม FOMC เดือนมกราคม ว่ามีท่าทีที่เข้มงวดขึ้นในเชิงนโยบาย โดยประการแรกคือการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำในแถลงการณ์จาก :

"อัตราเงินเฟ้อมีพัฒนาการดีขึ้นในการมุ่งสู่เป้าหมายของ FOMC ที่ 2% แต่ยังคงถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง" เป็น : "อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง"

เราเห็นด้วยว่าการตัดข้อความ "มีพัฒนาการดีขึ้น" ออกไปนั้น ทำให้ดูเหมือนมีความหวังลดน้อยลงและอาจชี้ว่าเฟดมีความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจยังยืนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามเกี่ยวกับประเด็นนี้ พาวเวลได้ชี้แจงว่าความหมายไม่ได้เปลี่ยนแปลง โดยเฟดยังมองการชะลอตัวของเงินเฟ้อในเดือนธันวาคมในแง่บวก และยังเชื่อว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงต่อไป การเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่ใช้ในแถลงการณ์นั้นเป็นเพียงความพยายามที่จะ "ปรับภาษาให้กระชับขึ้น” เท่านั้น

นอกจากนี้ อีกประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดคือคำกล่าวของพาวเวลในการแถลงข่าว ที่ระบุว่า "เราจะมุ่งเน้นไปที่การมองเห็นความคืบหน้าที่แท้จริงในการควบคุมเงินเฟ้อ หรืออย่างน้อยต้องเห็นสัญญาณความอ่อนแอบางอย่างในตลาดแรงงานก่อนที่เราจะพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบาย" และตามด้วย "เราไม่จำเป็นต้องรีบเร่งในการปรับเปลี่ยนจุดยืนทางนโยบายของเรา" ตลาดตีความข้อความเหล่านี้ซึ่งมีนัยยะว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมแทบจะเป็นไปไม่ได้ และแม้แต่เดือนพฤษภาคมก็ยังมีความไม่แน่นอน

ตลาดตอบสนองด้วยการปรับลดคาดการณ์ขนาดของการลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนพฤษภาคม ลงจาก 15.3 bps ในวันก่อนการประชุม FOMC เหลือ 12.3 bps หลังการประชุม และการลดดอกเบี้ยรวมทั้งปีลงจาก 49.6 bps เหลือ 46.2 bps

แม้เราจะเห็นด้วยว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่เฟดจะคงดอกเบี้ยต่อไปจนถึงเดือนมีนาคม และอยู่ในสถานะเฝ้าติดตามข้อมูลเศรษฐกิจ แต่ด้วยถ้อยแถลงในการประชุมอื่นๆ ของพาวเวลในอีกหลายวาระ ทำให้เรามองว่ายังมีโอกาสที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบาย

หนึ่งในนั้นคือการที่เขาอธิบายว่านโยบายการเงินในปัจจุบัน "เป็นนโยบายแบบเข้มงวดอย่างมีนัยสำคัญ" ซึ่งเป็นการชี้ว่ามีเหตุผลมากพอที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในกรณีเหตุการณ์ปกติ

เขายังได้ชี้แจงไว้อย่างชัดเจนว่า แม้ FOMC ต้องการเห็นความคืบหน้าเพิ่มเติมในการมุ่งสู่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% แต่ "ผมไม่ได้หมายความว่าต้องลงไปถึง 2% ให้ได้แบบยั่งยืน" ก่อนที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ย ดังนั้น หลังจากที่เงินเฟ้ออยู่เหนือระดับ 2% มาเป็นเวลานานสี่ปี ประธานเฟดเชื่อว่าสามารถปรับลดดอกเบี้ยได้ก่อนที่จะกลับไปถึงระดับ 2% ซึ่งน่าจะเป็นเพราะเขามองนโยบายการเงินในปัจจุบันว่า "เป็นนโยบายแบบเข้มงวดอย่างมีนัยสำคัญ"

ภายใต้บริบทนี้ เราเชื่อว่าความเห็นของพาวเวลเกี่ยวกับการว่างงานอาจมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเขาได้กล่าวว่า "ตลาดแรงงานไม่ได้เป็นแหล่งที่มาของแรงกดดันเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ" และ "เราไม่จำเป็นต้องเห็นความอ่อนแอที่เพิ่มขึ้นอีกในตลาดแรงงาน เพื่อทำให้ได้ผลสำเร็จ" บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด

เมื่อพิจารณาถ้อยแถลงเหล่านี้ร่วมกัน เราคิดว่าเฟดอาจตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราการว่างงานจากระดับปัจจุบันที่ 4.1% แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ใกล้เคียงกับระดับปัจจุบันก็ตาม

ข้อมูลตลาดแรงงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่าการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานมีแนวโน้มที่จะไม่เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ โดยค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเหลือ 212,500 ราย ในสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว นอกจากนี้ ตัวเลขการเลิกจ้างตามรายงาน Challenger ก็ลดลงเช่นกันในเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม สิ่งบ่งชี้สำคัญที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการใช้จ่าย แม้ว่าตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ที่เพิ่งประกาศออกมาจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.3% (เทียบจากไตรมาสก่อนหน้า โดยแสดงเป็นอัตราการเติบโตต่อปี) ลดลงจาก 3.1% ในไตรมาส 3 แต่การเติบโตของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนกลับเร่งตัวขึ้นเป็น 4.2% จาก 3.7% ตามลำดับ และยอดขายขั้นสุดท้าย (final sales) ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 3.2% ซึ่งสูงกว่าระดับศักยภาพ การชะลอตัวของการเติบโตโดยรวมส่วนใหญ่มาจากการลดลงของสินค้าคงคลัง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1 ของปีนี้

โดยสรุปคือ เฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมเนื่องจากเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เราคาดว่าการเติบโตจะยังคงอยู่ที่ระดับ 2% หรือสูงกว่าในไตรมาสแรก และน่าจะต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 2 หากไม่มีผลกระทบรุนแรงจากนโยบายภาษีที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นและทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย

ในสถานการณ์นี้ เฟดจะยังคงดอกเบี้ยไว้ในเดือนมีนาคมและอาจรวมถึงเดือนพฤษภาคม เว้นแต่อัตราเงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่องอีกหลายเดือน ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขค่าเช่าอพาร์ตเมนต์จะออกมาลดลงและราคาบ้านเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนว่าแรงกดดันต่อเงินเฟ้อมีน้อยลง แต่นั่นอาจยังไม่เพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบอื่นๆ ของดัชนี CPI โดยเฉพาะหากประธานาธิบดีทรัมป์ดำเนินการเก็บภาษีนำเข้า 25% กับเม็กซิโกและแคนาดาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าหากอัตราการว่างงานเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นเกินระดับ 4.3% เฟดอาจรีบดำเนินการตัดสินใจและส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย

Interesting reads

Know more
ESG เส้นทางสู่ความยั่งยืน

in insights

ตราสารทุน

ESG เส้นทางสู่ความยั่งยืน

25 เม.ย.

เรามุ่งเน้นในการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (Responsible Investment หรือ RI) และแสดงให้เห็นถึง ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนเมษายน

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนเมษายน

18 เม.ย. | Ray Farris , Vis Nayar

เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ขณะที่ความเสี่ยงของภาวะถดถอยก็เพิ่มขึ้นอย่า ...

ปรับตัวรับมือผลกระทบ
จากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ

in insights

กองทุนรวมผสม

ปรับตัวรับมือผลกระทบ จากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ

04 เม.ย.

เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริก ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนมีนาคม

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนมีนาคม

15 มี.ค. | Ray Farris , Vis Nayar

ตลาดกำลังสะท้อนถึงผลกระทบจากสงครามภาษีของทรัมป์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งชี้ ...

จีนเปลี่ยนทิศทางนโยบาย มุ่งสู่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

in insights

กองทุนรวมผสม

จีนเปลี่ยนทิศทางนโยบาย มุ่งสู่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

12 มี.ค.

เราเชื่อว่าการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติครั้งล่าสุดของจีน ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงใ ...

การประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐ และความท้าทายต่อ “US Exceptionalism”

in insights

กองทุนรวมผสม

การประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐ และความท้าทายต่อ “US Exceptionalism”

07 มี.ค.

ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดและการประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเ ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนกุมภาพันธ์

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนกุมภาพันธ์

18 ก.พ. | Ray Farris , Vis Nayar

แม้จะมีความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษี แต่ผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาดได้ช่วยให้ผลตอบแทนใน ...

ยุทธศาสตร์การคลังอินเดีย: โรดแมปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

in insights

กองทุนรวมผสม

ยุทธศาสตร์การคลังอินเดีย: โรดแมปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

05 ก.พ.

งบประมาณใหม่ของอินเดียตั้งเป้าลดการขาดดุลลงเหลือ 4.4% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2026 จาก 4. ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO
ประจำเดือนมกราคม

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนมกราคม

17 ม.ค. | Ray Farris , Vis Nayar

การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แต่เผชิญกับความไม่แน่นอนด้านนโยบาย โดยเฉพาะเรื ...

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนธันวาคม

in insights

กองทุนรวมผสม

มุมมองการลงทุนจาก CIO ประจำเดือนธันวาคม

23 ธ.ค. | Vis Nayar

ข้อมูลที่ออกมาไม่สอดคล้องกันและความกังวลต่อการเติบโตของจีนกำลังถูกลดแรงกดดันลงด้วยมาตร ...

ข้อมูล คำแนะนำบทวิเคราะห์ และการแสดงความเห็นต่างๆ ที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ ได้จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ได้รับมาจาก แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้นโดยไม่มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้นำให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ และไม่ถือเป็นการให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนของบริษัทต่างๆ ตามที่ระบุหรือถูกกล่าวถึงไว้ในเอกสารฉบับนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความครบถ้วนสมบูรณ์หรือถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้ หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำ ข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ

ความคิดเห็นใดๆ ในเอกสารฉบับนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของทีมผู้เขียน มิได้เป็นความคิดเห็นอย่างเป็นทางการของ บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ดังนั้น บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เอกสารควรใช้คู่กับหนังสือชี้ชวน

การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงในการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนมากกว่าหรือน้อยกว่าการลงทุนเริ่มแรกก็ได้ และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้

แม้ว่ากองทุนรวมตลาดเงินลงทุนได้เฉพาะทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสขาดทุนได้ การลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินไม่ใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน