China A บนเส้นทางสู่การฟื้นตัว

ตลาดหุ้น A-share ของจีนพร้อมได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวที่เผยออกมาให้เห็นเด่นชัดของเศรษฐกิจ ภาคอสังหาริมทรัพย์และผลประกอบการภาคธุรกิจ การที่ตลาดมีบริษัทที่มุ่งเน้นด้านการผลิตในสัดส่วนเพิ่มขึ้นทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเปลี่ยนผ่านของภาคการผลิตจีนที่ดำเนินมาเป็นเวลานานหลายปี ด้วยมูลค่าที่สะท้อนว่ายังไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมากนัก

กลยุทธ์เชิงปริมาณหรือ Quant strategies มักได้รับความสนใจจากแนวทางการลงทุนที่มีโครงสร้าง แบบเป็นระบบ และสามารถดำเนินการซ้ำได้ ซึ่งการขจัดอคติทางพฤติกรรมและอาศัยหลักฐานที่เกิดขึ้นจริงจากข้อมูลจำนวนมาก ทำให้การลงทุนเชิงปริมาณจะไม่ถูกบดบังด้วยความลำเอียงของมนุษย์และความชอบส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดที่ไม่ได้อิงกับการลงทุนเชิงปริมาณได้ชี้ถึงประเด็นที่ว่ากลยุทธ์เหล่านี้อาศัยข้อมูลในอดีตซึ่งอาจไม่ได้จัดเตรียมแบบจำลองเชิงปริมาณให้มีความรวดเร็วเพียงพอในการคาดการณ์และปรับให้เข้ากับเหตุการณ์ของตลาดในอนาคต ซึ่ง COVID-19 ถือเป็นตัวอย่างในกรณีนี้ อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์เชิงปริมาณที่มีความผันผวนต่ำ ("low vol") สามารถส่งมอบสิ่งที่มุ่งหวังได้ นั่นคือการให้ผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าตลาดแม้ในช่วงที่เกิดภาวะการปรับตัวลงอย่างรุนแรงจาก COVID และการกลับมาฟื้นตัวของตลาดถัดจากนั้น

สายพันธุ์ delta ของ COVID ที่ระบาดมากขึ้นในเอเชียเมื่อปี 2021 ส่งผลให้ดัชนีความผันผวนขั้นต่ำของ MSCI เอเชียไม่รวมญี่ปุ่น (MSCI Asia ex Japan Minimum Volatility Index) ปรับตัวลดลง 5% ในระหว่างวันที่ 18 มีนาคมถึง 20 สิงหาคม ในขณะที่ดัชนี MSCI เอเชียไม่รวมญี่ปุ่น ซึ่งเป็นดัชนีที่ครอบคลุมหุ้นมากกว่าได้ปรับตัวลดลง 10.7%1 รูปแบบความเคลื่อนไหวนี้ได้แสดงให้เห็นซ้ำๆ ตลอดทั้งปีในแต่ละรอบที่ตลาดปรับฐานจากจุดสูงสุดสู่จุดต่ำสุด (drawdown)

เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปถึงความท้าทายที่เศรษฐกิจจีนเผชิญในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และเมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังเราเชื่อว่าจะมีกรณีที่น่าสนใจสำหรับหุ้น China A ทั้งนี้ เงินเฟ้อที่ยังรับมือได้จะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งตรงกันข้ามอย่างมากกับประเทศอื่นๆ ที่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย รัฐบาลจีนนั้นมีแนวโน้มที่จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน จีนก็ยังมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่หายากในตลาดเกิดใหม่ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น

ทางด้านมูลค่าก็มีความน่าสนใจสำหรับโอกาสในฝั่งขาขึ้น โดยดัชนี CSI 300 ซื้อขายอยู่ที่ราวค่าเฉลี่ยในอดีต รูปที่ 1 ขณะมูลค่าก็ยังดูน่าดึงดูดเมื่อเทียบกับตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเอเชียโดยส่วนใหญ่ แม้ว่าตลาดหุ้น A-share จะทำสามารถผลงานในไตรมาส 2 ปี 2022 ได้ดีกว่าก็ตาม รูปที่ 2

รูปที่ 1 : อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิของดัชนี CSI 300 (หน่วย: เท่า)

china-a-position-for-the-recoveries-fig-1

รูปที่ 2 : อัตราส่วนราคาตลาดต่อคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2022 (หน่วย: เท่า)

china-a-position-for-the-recoveries-fig-2

ที่สำคัญกว่านั้น เราคิดว่ากระแสการปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของจีนได้ผ่านจุดย่ำแย่ที่สุดมาแล้ว หลังจากการคาดการณ์การเติบโตของกำไรลดลง 28% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ ดูรูปที่ 3 ด้วยเหตุนี้ เราจึงเชื่อว่ามีโอกาสที่ผลประกอบการของจีนอาจสร้างความประหลาดใจได้นับตั้งแต่นี้ เรื่องดังกล่าวมีความสำคัญเพราะว่าการวิ่งขึ้นของตลาดหุ้น A-share เมื่อเร็ว ๆ นี้ ส่วนใหญ่มาจากการปรับคาดการณ์มูลค่า ซึ่งเราต้องการเห็นการเติบโตของผลกำไรเพื่อให้การดีดตัวขึ้นของราคาหุ้นเป็นสิ่งที่ยั่งยืน

รูปที่ 3 : คาดการณ์การเติบโตของผลประกอบการ

china-a-position-for-the-recoveries-fig-3

เศรษฐกิจจีนถึงจุดต่ำสุดแล้ว

ความเชื่อมั่นของเราที่มีต่อตลาดหุ้น A-share ส่วนหนึ่งมาจากแนวโน้มที่ค่อยๆ ดีขึ้นของเศรษฐกิจจีน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจลงมาแตะจุดต่ำสุดในไตรมาสที่สอง โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการต่างๆ ที่ทางการประกาศออกมาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งรวมถึงการลดหย่อนภาษี (1.4 แสนล้านหยวน) การเลื่อนจ่ายเงินสมทบประกันสังคมของภาคธุรกิจ (3.2 แสนล้านหยวน) และการลดภาษีซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและสินค้าอื่นๆ (6 หมื่นล้านหยวน)

รูปที่ 4 : สัญญาณการฟื้นตัวของการบริโภคในเดือนพฤษภาคม

china-a-position-for-the-recoveries-fig-4

เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้เห็นมาตรการผ่อนคลายในแต่ละภูมิภาคย่อยของจีนเพื่อช่วยภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การปรับลดเงินดาวน์ และการผ่อนคลายเงื่อนไขสำหรับการซื้อบ้าน จีนยังคงมีแผนลงทุนมูลค่า1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี 2021 ถึง 2025 ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะเพื่อรองรับการเติบโต โดยโครงการดังกล่าวจะใช้ 5G ปัญญาประดิษฐ์ และ Internet of Things เพื่อเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมดั้งเดิมและสนับสนุนอุตสาหกรรมเกิดใหม่ ในขณะเดียวกัน สัญญาณล่าสุดจากทางการจีนที่ได้ผ่อนคลายกฎระเบียบที่ต้องการคุมเข้มแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตก็น่าจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ส่วนในภาคการเงิน ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราสำรองเงินทุน (RRR) ตลอดจนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี (LPR) เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทต่างๆ

หากมองไปข้างหน้า เราคาดว่านโยบายจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่อไป รวมทั้งการเพิ่มมาตรการอุดหนุนในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีมูลค่าสูงอย่างเช่นรถยนต์ เครื่องใช้ในบ้าน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะนโยบายการเงินจะยังอยู่ในทิศทางที่ผ่อนคลายด้วยการผสมผสานกันระหว่างการปรับลด RRR การอัดฉีดสภาพคล่อง และการสนับสนุนสินเชื่อแบบเจาะจงเป้าหมาย (เช่น โควต้าในการนำไปปล่อยกู้ใหม่) รวมทั้งการปรับลดดอกเบี้ย LPR ซึ่งมีความเป็นได้ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของแนวโน้มการฟื้นตัวของจีนนั้นจะขึ้นอยู่กับภาคอสังหาริมทรัพย์และนโยบาย “zero COVID” ของจีนเป็นสำคัญ

มีโอกาสที่รออยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์หรือไม่

เมื่อเร็วๆ นี้เจ้าของบ้านชาวจีนตกเป็นเป้าสนใจจากการที่พวกเขาปฏิเสธที่จะจ่ายชำระเงินค่างวดสินเชื่อบ้านของตน โดยมีจำนวนกว่า 300 โครงการใน 93 เมืองที่ได้รับผลกระทบ เราให้ความสนใจตรงที่การหยุดจ่ายค่างวดนั้นเกิดขึ้นจากความหวาดกลัวว่าบรรดาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะไม่สามารถส่งมอบโครงการของตนได้ มากกว่าจะกังวลว่าผู้ซื้อบ้านจะไม่มีกำลังเหลือพอที่จะจ่ายเงินค่างวด ดังนั้น กุญแจสำคัญก็คือการช่วยฟื้นฟูความสามารถของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถดำเนินโครงการจนแล้วเสร็จ ซึ่ง ณ ช่วงเวลาที่จัดทำบทความ มีรายงานว่าจีนจะเปิดตัวกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยบริษัทอสังหาริมทรัพย์แก้ปัญหาสภาพคล่อง

การคว่ำบาตรสินเชื่อบ้านในจีนนั้นคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 3% ของยอดรวมสินเชื่อบ้านในจีนของธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดจำนวน 14 แห่ง แม้ว่าการคว่ำบาตรไม่น่าจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่สำคัญต่อทั้งอุตสาหกรรมการเงินในขณะนี้ แต่ก็อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ซื้อได้มากขึ้นและมีผลกระทบด้านลบที่อาจลุกลามต่อไปได้ การประท้วงของกลุ่มผู้ซื้อจะส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้านและการจ่ายเงินล่วงหน้าซึ่งเป็นแหล่งสภาพคล่องที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีภาระหนี้ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลท้องถิ่นยังต้องพึ่งพาการขายที่ดินเป็นส่วนใหญ่เพื่อนำมาเป็นแหล่งเงินทุน ซึ่งการขาดรายได้ดังกล่าวจะทำให้มาตรการสนับสนุนภายในภูมิภาคซึ่งถูกนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ผลน้อยลง โดยในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายที่ดินลดลง 31.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งจากประมาณการของเราพบว่าการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง 5% จะทำให้ GDP ของจีนเติบโตลดลง 0.6-0.7%

เราเชื่อว่ามีความจำเป็นที่ต้องเห็นสัญญาณที่ชัดเจนอย่างมากจากรัฐบาลกลางเพื่อช่วยภาคอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือจากมาตรการที่เกิดขึ้นอย่างกระจัดกระจายซึ่งเราได้เห็นจากรัฐบาลท้องถิ่น และแม้ว่า “กองทุนเสถียรภาพ” (stability fund) ดังที่กล่าวข้างต้นจะเป็นก้าวที่มุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่เราเชื่อว่ารัฐบาลก็อาจพิจารณามาตรการอื่นๆ ด้วย เช่น :

  • จัดตั้งหน่วยงานพิเศษให้ทยอยเข้าจัดการโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งอาจแปลงเป็นที่อยู่อาศัยในราคาที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้
  • ตั้งคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีมาตรการที่เข้มงวดมากเกินไปในภาคอสังหาริมทรัพย์
  • การระงับใช้ชั่วคราว (หรือเลื่อนกำหนดวันสิ้นสุด) ของนโยบายเส้นแดงหรือ redline policy ทั้งสามข้อซึ่งจำกัดจำนวนบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหนี้ให้สามารถดำเนินการได้ต่อไป

แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่มาตรการเหล่านี้จะเกิดขึ้นล่าช้า แต่ข้อสมมติตามกรณีฐานของเราก็คือตลาดที่อยู่อาศัยจะถึงจุดต่ำสุดใน 3Q22 และจะมุ่งสู่การฟื้นตัวที่ส่งผลอย่างมีนัยยะมากขึ้นในช่วง 4Q/22 หรือ 1Q23

สำรวจความเสี่ยงที่ยังมีอยู่

นโยบายปลอด COVID ของจีนและการล็อกดาวน์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเซี่ยงไฮ้/เซินเจิ้น ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่เผชิญความย่ำแย่อยู่เดิมจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่จีนพยายามคงนโยบาย zero COVID อยู่ต่อไป แต่การผ่อนคลายข้อจำกัดในการกักกันผู้คนและจำกัดการเดินทางในจีนเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงความถี่ในการทดสอบที่น้อยลง ชี้ให้เห็นว่าจีนน่าจะปรับแนวทางการตอบสนองไปตามสถานการณ์ COVID ที่จะดำเนินไป ทั้งนี้ แม้ว่าการต่ออายุมาตรการจำกัดยังมีความเป็นไปได้หากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้น แต่เราเชื่อว่าจีนน่าจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหยุดชะงักแบบที่เคยเห็นในเดือนเมษายน/พฤษภาคม เนื่องจากการเฝ้าติดตามภาวะการระบาดอาจดำเนินไปในเชิงรุกมากขึ้น

ด้านการเมือง การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ซึ่งมีวาระประกาศการเปลี่ยนแปลงผู้นำครั้งสำคัญ จะเป็นงานสำคัญที่สุดที่ต้องจับตาในช่วงครึ่งหลังของปี มุมมองส่วนใหญ่ก็คือประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์สมัยที่สามต่อไป แต่อาจมีความไม่แน่นอนบางประการเกี่ยวกับองค์ประกอบที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Politburo Standing Committee) โดยการเปลี่ยนแปลงบุคลากรในระดับรัฐมนตรีของสถาบันด้านเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญของจีนจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจมหภาคอย่างมีนัยยะสูงสุดและเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ลงทุนควรจับตา

แนวทางสำหรับการฟื้นตัว

เราเชื่อว่าตลาดหุ้น A-share จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และผลประกอบการ และหากนำมาเทียบกับตลาด H-share แล้ว ตลาดหุ้น A-share ซึ่งมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของบริษัทที่มุ่งเน้นด้านการผลิต น่าจะได้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลมุ่งเน้นมากขึ้นในกระบวนการยกระดับภาคการผลิตผ่านมาตรการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพึ่งพาเทคโนโลยีภายในประเทศมากขึ้น ระบบอัตโนมัติ และการแปลงเป็นดิจิทัล โดยมีโอกาสการลงทุนในบริษัทต่างๆ ที่อยู่ภายในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และซัพพลายเชนแบตเตอรี่ ตลอดจนบริษัทที่เกี่ยวข้องในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค เซมิคอนดักเตอร์ และยาที่เป็นนวัตกรรม นอกจากนี้ ตลาดหุ้น A-share ก็มีแนวโน้มที่จะเดินบนแนวทางของตัวเอง โดยมีนโยบายภายในประเทศที่จะส่งผลกระทบมากขึ้นและอาจทำให้ได้รับผลกระทบน้อยจากวัฏจักรนโยบายการเงินแบบเข้มงวดที่กำลังดำเนินอยู่ทั่วโลก

This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.