ตลาดการเงินเวียดนาม | จุดพลังขับเคลื่อนสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง

เวียดนามกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันน่าดึงดูดสำหรับผู้ลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยได้รับแรงหนุนจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเมืองที่มีเสถียรภาพ ขณะปัจจัยภายในประเทศ เวียดนามมีประชากรวัยหนุ่มสาวและแรงงานที่มีการศึกษาดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยผลักดันความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนด้วยเช่นกัน ปรากฎการณ์นี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่ออุตสาหกรรมการบริหารความมั่งคั่งในภาพรวม

เศรษฐกิจของเวียดนามยังคงมีความแข็งแกร่งในปี 2020 แม้จะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ 2.9%1 ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในโลก ความโดดเด่นนี้เกิดจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางและประชากรวัยหนุ่มสาวซึ่งช่วยหนุนให้เศรษฐกิจสามารถยืนหยัดอยู่ได้โดยผ่านการใช้จ่ายภายในประเทศภายใต้สถานการณ์ที่ปราศจากการเติบโตในเซ็กเตอร์ที่สำคัญอื่นๆ การตอบสนองของรัฐบาลเวียดนามที่รวดเร็วและเด็ดขาดในช่วงต้นของการแพร่ระบาดเพื่อควบคุมไวรัส และนโยบายการคลังและการเงินที่ตรงสู่เป้าหมาย ก็มีความสำคัญเช่นกันในการนำพาเศรษฐกิจผ่านมรสุม COVID-19 ที่เกิดขึ้นหลายระลอก ในการรับมือกับอุปสรรคที่เกิดจากสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดอย่างรวดเร็ว รัฐบาลได้มีการปรับเปลี่ยนความสำคัญไปให้กับการรักษาผู้ป่วยและการปูพรมฉีดวัคซีนในวงกว้าง และออกใช้มาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถประคับประคองการผลิตไว้ได้ เวียดนามตั้งเป้าในการเกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ภายในเดือนเมษายน 2022 โดยจัดลำดับความสำคัญไว้ที่เมืองที่ใหญ่ที่สุดอย่างเช่นโฮจิมินห์ซิตี้ และฮานอย ทั้งนี้ GDP ของเวียดนามยังคงถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 4.8% ในปี 20212 แม้จะเกิดการระบาดระลอกล่าสุด

การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลที่มีความรวดเร็วและยืดหยุ่นได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อการฟื้นตัวในยุคภายหลังการระบาดใหญ่และการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เวียดนามกำลังคืบหน้าไปทีละก้าวอย่างมั่นคงเพื่อขึ้นสู่การเป็นตลาดเกิดใหม่ โดยในขณะที่เศรษฐกิจและการเมืองมีเสถียรภาพ ตลาดทุนของประเทศก็เติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกันในทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ของเวียดนามในขณะนี้ต่างนำเสนอโอกาสการลงทุนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ลงทุน

ตลาดหุ้นที่เติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นของเวียดนามมีความแข็งแกร่งในช่วงที่เกิดภาวะการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ในความเป็นจริง ตลาดหุ้นเวียดนามแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่น่าประทับใจในยุคหลังวิกฤตซับไพรม์ของสหรัฐ ดูรูปที่ 1 มาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น 22 เท่ามาอยู่ที่ 292 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ3 ซึ่งมากกว่า GDP ของประเทศ ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 15.5% ต่อปีในช่วงระยะเวลา 12 ปี4นอกจากนี้ จำนวนหุ้นที่สามารถลงทุนได้เพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า มีผู้ลงทุนต่างชาติจำนวนมากขึ้นที่ยอมเปิดรับความเสี่ยงภายใต้กลยุทธ์ลงทุนทั้งแบบ active และ passive investment เนื่องจากการผ่อนคลายข้อจำกัดการถือครองของต่างชาติ ในส่วนสภาพคล่องของตลาดยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยได้รับแรงหนุนจากผู้ลงทุนรายย่อยเป็นหลัก จำนวนการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์รายใหม่ของโบรกเกอร์ในประเทศทำสถิติสูงสุดใหม่ในครึ่งแรกของปี 2021 ซึ่งสามารถคิดเป็นอัตราการเข้าถึงประชากรที่ 3.5% ของประชากรทั้งหมด5

ในเรื่องกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆ ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้มีความโปร่งใสมากขึ้นและด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตลาดมีการกำกับดูแลที่ดีขึ้น กฎหมายหลักทรัพย์ฉบับใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2021 เป็นกรอบกฎหมายที่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติด้านตลาดและมาตรฐานสากล โดยไฮไลท์ที่สำคัญของกฎหมายหลักทรัพย์ฉบับใหม่ ได้แก่ เกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับบริษัทมหาชนและการออกเครื่องมือการลงทุนใหม่ เช่น Depositary Receipt (DR), Non-Voting Depositary Receipt (NVDR) และ Short Selling สิ่งเหล่านี้จำเป็นต่อการเพิ่มโอกาสให้เวียดนามถูกจัดกลุ่มใหม่ สู่การเป็นตลาดเกิดใหม่หรือ emerging market ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

รูปที่ 1 : สำรวจตลาดหุ้นเวียดนามในแนวกว้างและแนวลึก

vietnam-s-financial-markets-to-power-on-Fig1

Bond market has plenty of room to grow

พันธบัตรรัฐบาลมีสัดส่วนที่ใหญ่ครองตลาดตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศซึ่งมีขนาด 90 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 65%6 แต่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ตลาดตราสารหนี้มีการขยายตัวอย่างโดดเด่นด้วยอัตราการเติบโต CAGR ที่ 27.4%7 ดูรูปที่ 2 ปัจจุบันมีผู้ออกตราสารคุณภาพสูงมากขึ้นจากหลายเซ็กเตอร์ที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารและพลังงานที่ได้ทยอยออกเสนอขายตราสาร ผู้ลงทุนรายย่อยยังมองว่าตลาดตราสารหนี้เอกชนเป็นช่องทางการลงทุนทางเลือกเนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลและเงินฝากธนาคารให้ดอกเบี้ยต่ำ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นพบว่าการพัฒนาตลาดกองทุนรวมในช่วงห้าปีที่ผ่านมาทำให้เกิดแพลตฟอร์มสำหรับผู้ลงทุนรายย่อยให้สามารถเข้าถึงตลาดตราสารหนี้เอกชน

ตลาดตราสารหนี้เอกชนมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎข้อบังคับที่มีมากขึ้นเพื่อส่งเสริมเรื่องความโปร่งใสและความยุติธรรมในตลาดได้ส่งผลชะลอการเติบโตในระยะหลัง แต่ในทางกลับกัน กฎเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นกลับสร้างความสบายใจให้แก่ผู้ลงทุนที่มีความรู้ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนจึงมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก จากปัจจุบันซึ่งมีขนาดตลาดคิดเป็นเพียง 11% ของ GDP

รูปที่ 2 : ตลาดตราสารหนี้เอกชนกำลังเติบโต (หน่วย : พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

vietnam-s-financial-markets-to-power-on-Fig1

ประโยชน์ที่เกิดจากโครงสร้างประชากร

ในช่วง 10 ปีก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 อัตราการเติบโตของ GDP เวียดนามในแต่ละปีเฉลี่ยอยู่ที่ 6.3%8 ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในเอเชีย การเติบโตในอัตราสูงนี้มีส่วนทำให้ตลาดหุ้นขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในอดีตเศรษฐกิจเวียดนามพึ่งพาภาคการเกษตรเป็นหลัก ขณะในปัจจุบันเป็นการเติบโตที่นำโดยกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมและบริการ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างประชากรที่น่าดึงดูดของเวียดนาม โดย 56% ของประชากรมีอายุต่ำกว่า 35 ปี9 ด้วยค่าเฉลี่ยที่ 32.5 ปี ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในบรรดาประเทศในภูมิภาคที่มีระดับรายได้ใกล้เคียงกัน โครงสร้างประชากรดังกล่าวส่งผลให้เวียดนามได้รับประโยชน์จากแรงงานที่มีมากถึง 56.5 ล้านคน ซึ่งถือเป็นตลาดแรงงานที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ ชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศในส่วนของการบริการและสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันคนชั้นกลางที่มีรายได้สูงกว่า 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนนั้นมีสัดส่วนอยู่ที่ราวหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 203010 นอกจากนี้ ชนชั้นกลางวัยหนุ่มสาวยังเปิดใจและพร้อมสำหรับเทรนด์ใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนสู่ดิจิทัล และตระหนักในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนมากขึ้น พวกเขาจึงเป็นตัวแทนของตลาดขนาดใหญ่สำหรับโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ทางด้านบริการทางการเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศ สินค้าอุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับการลงทุนมีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้น

ปัจจัยขับเคลื่อนดังกล่าว ซึ่งได้แก่ประชากรวัยหนุ่มสาว ชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น การรับเทรนด์ใหม่ๆ และการพัฒนาตลาดการเงิน ได้กระตุ้นให้เกิดความต้องการในการลงทุนและผลิตภัณฑ์ประกันที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มหลังมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 42.9% ต่อปีในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่ากลุ่มประกันชีวิตโดยรวมซึ่งมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 28.3%11 ป็นผลให้ผลิตภัณฑ์แบบครอบคลุมและยูนิตลิงก์สามารถขึ้นครองตลาดและเป็นมาร์เก็ตแชร์ใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ดูรูปที่ 3

ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมการจัดการกองทุนของเวียดนามได้มีการพัฒนามาอย่างคู่ขนาน ควบคู่ไปกับวิวัฒนาการของตลาดการเงินของประเทศ ผู้ลงทุนสถาบันทั้งประเภทออนชอร์และออฟชอร์ต่างเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหารขึ้นถึงเกือบสามเท่า นั่นคือจาก 19.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 201512 มาเป็น 52.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 202013 เวียดนามถือเป็นตัวแทนสำหรับตลาดเกิดใหม่และสามารถดึงดูดผู้ลงทุนต่างชาติมากขึ้น ผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศยังเปิดรับแนวคิดเรื่องผู้จัดการกองทุนมืออาชีพมากขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนด้วยตนเอง นอกจากนี้ ผู้ลงทุนในประเทศยังพร้อมพิจารณาผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เช่น กองทุนเปิด และ ETF เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีความหมายที่ดีสำหรับทั้งอุตสาหกรรมในอนาคต

รูปที่ 3 : ผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงการลงทุนมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น

vietnam-s-financial-markets-to-power-on-Fig1

Sources:
1 Bloomberg’s historical data sourced from Vietnam Government Statistic Office
2 World Bank, Taking Stock Aug 2021
3 Total market cap of HOSE, HNX, UPCoM bourses. Bloomberg, as 9 August 2021
4 Bloomberg. Annual return of Vietnam main bourse – VNIndex – from 31 Dec 2008 to 6 Aug 2021
5 Vietnam Security Depository Center website, as 31 July 2021
6 ADB, Asia Bond Minor Jun 2021 Report & Techcombank Securities, Corporate Bond Market Review Q1/2021
7 Techcombank Securities, Corporate Bond Market Review Q1/2021
8 World Bank database, data.worldbank.org
9 World Bank – Vietnam country overview, updated 7 Apr 2021
10 BMI Vietnam Market Report, Boston Consulting Group’s survey & Nielsen market research
11 Ministry of Finance, Insurance Supervisory Agency, Insurance Market 2020 Review
12 Interview with a Representative from the State Securities Commission, Vietnam Investment Review Magazine,21 July 2020
13 Cerulli Associates, Institutional Asset Management in Asia 2020 Report

This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.