ผลกระทบจากสกุลเงินดิจิทัลของจีนคืออะไร?

แผนงานสกุลเงินดิจิทัลของจีนนั้นอาจเรียกได้ว่ามีความก้าวหน้ามากที่สุดในโลก การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยสกุลเงินดิจิทัล หรือ Digital Currency Electronic Payment (DC/EP) นำประโยชน์สู่ผู้บริโภคได้มากมาย แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อธนาคารและแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบบุคคลที่สามที่มีอยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถผลักดันให้ใช้ได้จริง DC/EP ก็อาจทำให้จีนขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่ต้องการผลักดันให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ หรือ Yuan internationalisation

จากคำกล่าวที่ว่า “cash is king” แต่รัฐบาลและธนาคารกลางของหลายๆ ประเทศเริ่มที่จะนึกถึงสังคมที่ปราศจากเงินสดอย่างสิ้นเชิง ผลสำรวจล่าสุดของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศหรือ Bank of International Settlements (BIS) พบว่า 80% ของธนาคารกลางจำนวน 66 แห่งทั่วโลกต่างกำลังศึกษาและดำเนินการในเรื่องสกุลเงินดิจิทัล1

การระบาดของ COVID-19 ได้ช่วยกระตุ้นให้ธนาคารกลางต้องคิดทบทวนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลเนื่องจากเงินสดถูกมองว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่มีโอกาสทำให้ไวรัสแพร่กระจายออกไป นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดใหญ่อาจทำให้ระบบการชำระเงินในปัจจุบันหยุดชะงัก ทำให้ต้องมีแผนสำรองด้านดิจิทัล

ในเดือนตุลาคมปี 2020 มีธนาคารกลาง 7 แห่งซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) และ BIS ได้เผยแพร่รายงานที่ระบุถึงหลักการสำหรับใช้เป็นแนวทางการออกสกุลเงินดิจิทัลโดยธนาคารกลาง2 นอกจากนี้ ยังมีบริษัทเทคโนโลยีอย่างเช่น Facebook ที่ได้ทดลองโปรเจกต์สกุลเงินดิจิทัลอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าอาจไม่มีโครงการสกุลเงินดิจิทัลของประเทศไหนที่ได้รับความสนใจมากเกินไปกว่าประเทศจีน การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยสกุลเงินดิจิทัล (DC/EP) เพิ่งได้รับการทดสอบในศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของเซินเจิ้น โดยมีผู้อยู่อาศัย 50,000 คนที่ได้รับ "ซองแดง" (ซองอั่งเปา) แบบดิจิทัลมูลค่าประมาณ 200 หยวน (30 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสามารถดาวน์โหลดไปยังแอปและใช้จับจ่ายได้ที่ร้านค้ามากกว่า 3,000 แห่ง3

โปรเจกต์สกุลเงินดิจิทัลของจีนนั้นอาจเรียกได้ว่ามีความก้าวหน้ามากที่สุดในโลกแล้ว แม้ว่าธนาคารกลางของจีนหรือ People’s Bank of China (PBoC) จะยังไม่ระบุแน่ชัดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้เมื่อไหร่

สกุลเงินดิจิทัลคืออะไร?

DC/EP มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะจากเงินคริปโตหรือ cryptocurrency ซึ่งตามคำจำกัดความถือเป็นเงินที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกลางใดๆ นอกจากนี้ DC/EP ยังมีสิ่งที่แตกต่างจากเงินคริปโตก็คือการเป็นวิธีที่สะดวกในการเก็บรักษามูลค่าแทนที่จะเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนพยายามคิดจะหาเงินจากมัน

ในความเป็นจริง DC/EP เป็นเพียงเงินหยวนที่จีนใช้อยู่ในปัจจุบันแต่อยู่ในรูปดิจิทัล เงินถูกนำออกมาใช้โดยมีธนาคารกลางหนุนหลังในเรื่องมูลค่า และเมื่อ DC/EP มีความพร้อม ผู้ใช้ก็จะสามารถดาวน์โหลดกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallets) ที่ใช้เก็บเงินและใช้สร้าง QR Code ที่ผู้ขายสามารถสแกนเรียกเก็บเงินได้4

สกุลเงินรูปแบบใหม่จะทำงานในลักษณะเดียวกันกับ Alipay และ WeChatPay ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านการชำระเงินดิจิทัลชั้นนำในประเทศจีน โดยข้อได้เปรียบสำหรับผู้บริโภคหลักๆ ก็คือความสะดวกสบาย การลดต้นทุนในการทำธุรกรรม และความสามารถในการทำธุรกรรมแม้ไม่มีเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ

DC/EP ยังเอื้อให้เกิดการจัดทำแบบจำลองทางสถิติและข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ธนาคารพาณิชย์คาดว่าจะมีบทบาทในการกระจายสกุลเงินดิจิทัลออกสู่ผู้ใช้ ซึ่งนอกจากธนาคารกลางแล้วธนาคารพาณิชย์ก็จะเก็บฐานข้อมูลเพื่อติดตามเงินหยวนดิจิทัลที่เปลี่ยนมือระหว่างผู้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากหากเป็นเงินสด วิธีนี้คาดว่าจะช่วยจัดการเรื่องการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนเพื่อก่อการร้าย และยังช่วยลดปัญหาข้อมูลที่ไม่ได้ระบุที่มาซึ่งเป็นกรณีของการใช้เงินสด ประเด็นดังกล่าวธนาคารกลางจีนระบุว่าจะพยายามสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองที่จะไม่เปิดเผยตัวตนผู้ใช้ และการตรวจจับการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ความมุ่งมั่นยกระดับเงินหยวนสู่การเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ

ความต้องการของจีนในการทำให้เงินหยวนกลายเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศนั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นความลับ แต่โครงการ DC/EP ได้ถูกผลักดันให้เกิดเร็วขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนรุนแรงขึ้น

DC/EP นั้นเดิมถูกตั้งเป้าว่าจะใช้สำหรับการชำระเงินภายในจีนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนมีการพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดนหรือ Cross-Border Interbank Payment System (CIPS) ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมในรูปสกุลเงินหยวนสามารถใช้ชำระเงินระหว่างประเทศได้โดยไม่ต้องผ่านระบบ SWIFT ที่เป็นของชาติตะวันตก

ในปี 2019 ธุรกรรมที่ดำเนินการผ่าน CIPS นั้นอยู่ที่ 135.7 พันล้านหยวนต่อวัน (20.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมาจากสถาบันการเงิน 980 แห่งใน 96 ประเทศ ตัวเลขดังกล่าวยังดูน้อยเมื่อเทียบกับ SWIFT ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD ) ด้วยมูลค่าธุรกรรมอยู่ที่ราว 5-6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน5 ดังแสดงในรูปที่ 1

รูปที่ 1 : สัดส่วนธุรกรรมการชำระเงินที่เป็นเงินหยวนในฐานะสกุลเงินระหว่างประเทศ

Digital currency chart-01

เมื่อสหรัฐใช้ SWIFT เพื่อดำเนินมาตรการคว่ำบาตร แต่ CIPS อาจเข้ามาเป็นทางเลือกให้แก่รัฐบาลจีนในระยะยาว

นอกจากนี้ ประเทศกำลังพัฒนาขนาดเล็กที่มีความเชื่อมโยงทางการค้าและการเงินกับจีนอย่างแข็งแกร่งอาจเริ่มออกใบแจ้งหนี้และชำระธุรกรรมโดยตรงในรูปสกุลเงินหยวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศคู่ค้าพันธมิตรที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ Belt and Road ของจีน ปัจจุบันเขตการค้าเสรีทั่วประเทศจีนกำลังหาทางเลือกต่างๆ ในเรื่องแหล่งเงินทุนข้ามพรมแดน และในอนาคตเขตการค้าเสรีเหล่านี้อาจเป็นตัวขับเคลื่อนการใช้เงินหยวนดิจิทัลในระดับนานาชาติ

การจับจ่ายของบรรดานักท่องเที่ยวชาวจีนและนักเดินทางในต่างประเทศอาจช่วยเร่งให้เกิดการใช้และการหมุนเวียนของเงินหยวนดิจิทัลนอกประเทศจีนได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันการจัดตั้งระบบที่เกี่ยวข้องและกลไกการทำงานร่วมในต่างประเทศ

สิ่งที่ผู้ลงทุนกังวล

มีข้อกังวลบางประการเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในทางปฏิบัติ ตัวอย่างเช่นในสวีเดนมีการคัดค้านอย่างหนักจากเหล่าผู้สูงอายุและกลุ่มคนพิการที่เดือดร้อนจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่การทำธุรกรรมแบบไม่ใช้เงินสด โดยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือรัฐบาลสวีเดนถึงกับยอมถอยหลังและกำหนดให้ธนาคารคงระดับเงินสดขั้นต่ำไว้รองรับความต้องการ6

กำจัดตัวกลางในภาคการเงิน

แต่ความกังวลที่สำคัญนั้นไปไกลเกินกว่าเรื่องเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการชำระเงินจากรูปแบบหนึ่งไปเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งความกังวลที่มากกว่าอาจเป็นสิ่งที่ผู้วิจารณ์เรียกว่า ‘disintermediation’ (การกำจัดตัวกลาง) นั่นคือความเป็นไปได้ที่ธนาคารพาณิชย์จะถูกตัดออกจากการมีบทบาทในแบบที่เคยเป็นมาในอดีต

ในปัจจุบัน ธนาคารกลางหลายแห่งได้ดำเนินการใช้สกุลเงินดิจิทัลแล้ว แต่ใช้อยู่ในกลุ่มธนาคารเท่านั้นหรือที่เรียกว่า wholesale level ซึ่งลูกค้าของธนาคารกลางก็คือธนาคารอื่นๆ แทนที่จะเป็นลูกค้าหลายล้านรายทั้งที่เป็นบุคคลและภาคธุรกิจ

สำหรับลูกค้าบางราย DC/EP ที่อิงกับระบบของธนาคารกลางจีนอาจถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเงินฝากธนาคาร ซึ่งหากลูกค้าของธนาคารเหล่านี้สามารถได้รับเงินดิจิทัลได้โดยตรงจากธนาคารกลาง พวกเขาก็อาจมีแนวโน้มที่จะฝากเงินไว้ในธนาคารพาณิชย์น้อยลง และในกรณีที่ไม่มีเงินฝาก ธนาคารพาณิชย์อาจมีเงินเหลือในมือที่จะไปปล่อยกู้ให้กับลูกค้ารายอื่นน้อยลง ต้นทุนในการระดมเงินอาจเพิ่มขึ้นหากต้องแข่งขันเพื่อแย่งชิงเงินฝากกับธนาคารอื่นหรือแสวงหาแหล่งเงินทุนอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าในช่วงวิกฤตภาคธนาคาร สกุลเงินดิจิทัลที่มีลักษณะยืดหยุ่นของอาจส่งผลให้ธนาคารดิจิทัลล้มได้ในทันทีและมีผลกระทบอย่างมหาศาล7

ตัวอย่างในจัดการกับประเด็นความกังวลนี้คือธนาคารกลางยุโรป ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีคำแนะนำให้จำกัดส่วนที่คล้ายเงินสดของสิ่งที่อาจเป็นสกุลเงินดิจิทัลไว้ที่ 3,000 ยูโรต่อคน ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของระดับเงินฝากในยุโรป

สำหรับแนวทางของจีนในการจัดการกับปัญหานี้ก็คือการเจาะจงรวมธนาคารพาณิชย์ไว้ในขั้นตอนการกระจายสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าจะจำกัดขนาดในการแลกเปลี่ยนเงิน เช่นเดียวกับการคง DC/EP ที่ไม่มีดอกเบี้ยเพื่อลดความน่าดึงดูดเมื่อเทียบกับเงินฝากธนาคาร แม้ประชาชนจะได้รับการสนับสนุนให้ถือบัญชี DC/EP แต่จำนวนเงินหมุนเวียนก็เป็นไปได้ว่าจะถูกจัดการดูแลด้วยความระมัดระวังและคาดว่าผลกระทบต่อระบบธนาคารแบบดั้งเดิมนั้นจะลดลง อย่างน้อยก็ในระยะสั้น

การแข่งขันของระบบการชำระเงิน

จีนมีระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานระบบหนึ่งของโลก ซึ่งเมื่อ DC/EP ได้เข้ามาสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูง จึงเกิดความกังวลว่า DC/EP จะอยู่ร่วมกับผู้เล่นในตลาดที่แข็งแกร่งในปัจจุบันได้อย่างไร

ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารกลางจีนแสดงให้เห็นว่าในปี 2019 ธนาคารต่างๆ ได้จัดการธุรกรรมการชำระเงินดิจิทัลบนมือถือในมูลค่า 49.27 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสัดส่วนประมาณสี่ในห้าของการชำระเงินในประเทศจีนนั้นทำผ่าน WeChat Pay ของ Tencent หรือ Alipay ของ Alibaba8 และถ้าเปรียบเทียบกับยุโรปพบว่าธุรกรรมราว 76% ยังคงอยู่ในรูปเงินสด ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าการชำระเงินรวมในทุกรูปแบบ9 รูปที่ 2 แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันแพลตฟอร์มดิจิทัลส่วนใหญ่ใช้ Alipay หรือ WeChat Pay เป็นพันธมิตรด้านการชำระเงิน ขณะที่บางแพลตฟอร์มได้พัฒนาระบบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง

รูปที่ 2 : ดิจิทัลแพลตฟอร์มรายใหญ่และระบบการชำระเงิน

Digital currency chart-02

ความน่าสนใจของระบบการชำระเงินเหล่านี้ไม่ได้อยู่แค่เรื่องการชำระเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง ecosystem ของแต่ละระบบด้วย ซึ่งมีการนำเสนอบริการที่หลากหลายนับตั้งแต่การสั่งอาหารไปจนถึงการซื้อของในร้านขายปลีกขนาดเล็ก และวงเงินเครดิต

หาก DC/EP มีความสามารถในการทำงานร่วมกันในแต่ละแพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีความแตกต่าง นั่นอาจช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นและผลักดันให้เกิดการยอมรับ ซึ่งในปัจจุบันเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือ digital wallet บนแพลตฟอร์มการชำระเงิน (เช่น Alipay) ไม่ได้ถูกยอมรับจากแพลตฟอร์มที่เป็นคู่แข่ง

เงินหยวนที่เหมาะกับยุคดิจิทัล

แม้ว่าเทคโนโลยีสำหรับเงินดิจิทัลนั้นจะเกิดขึ้นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ธนาคารกลางจีนก็มีแนวโน้มว่าจะใช้แนวทางแบบรอบคอบเพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อระบบการเงินในวงกว้าง

ผลกระทบต่อธนาคารและระบบการชำระเงินแบบบุคคลที่สามจะขึ้นอยู่กับอัตราการใช้งาน DC/EP และรูปแบบการดำเนินงานระหว่าง DC/EP กับผู้เล่นในตลาดเหล่านี้ ในขณะที่ธนาคารของจีนอาจเผชิญกับการแข่งขันด้านเงินฝากอยู่บ้าง แต่นั่นก็อาจทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่นธนาคารสามารถรับค่าธรรมเนียมการดูแลจากลูกค้าในส่วนของกระเป๋าเงินดิจิทัล ในขณะเดียวกันระบบการชำระเงินแบบบุคคลที่สามต้องช่วยทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้นในเรื่องกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อเพิ่มความอยากใช้แพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อาจมีโอกาสเพิ่มเติมเข้ามาสำหรับวิธีการชำระเงินแบบอื่นๆ ในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกแห่งนี้ โดยปัจจุบันจีนมีประชากรอีกจำนวนราว 400 ถึง 500 ล้านคนที่ไม่มีบัญชี Alipay และอีก 200 ล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร10

แม้ว่า DC/EP ของจีนจะยังอยู่ในขั้นนำร่องสำหรับการใช้ภายในประเทศ แต่ในที่สุดแล้วระบบนี้ก็จะสามารถลดอุปสรรคในการใช้เงินหยวนสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนได้ และหากนำไปใช้ได้สำเร็จ DC/EP น่าจะช่วยยกระดับบทบาทของเงินหยวนในเวทีนานาชาติได้ในระยะยาว และมุ่งเข้าใกล้เป้าหมายได้อีกขั้นหนึ่งในการให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ โดย ณ ขณะนี้โลกกำลังจับจ้องการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นโอกาสให้จีนได้อวดโฉมสกุลเงินดิจิทัลของตนให้ปรากฏสู่สายตาผู้คนทั่วโลก

Sources:
1 https://www.bis.org/publ/bppdf/bispap107.htm
2 https://www.bis.org/publ/othp33.htm
3 https://www.bbc.com/news/business-54519326
4 https://www.reuters.com/article/us-china-currency-digital-explainer-idUSKBN27411T
5 https://www.reuters.com/article/china-banks-clearing-idUSL3N2F115E
6 https://www.abc.net.au/news/2020-06-09/australia-can-learn-from-swedens-move-to-a-cashless-society/12282764
7 https://www.ecb.europa.eu/press/key/date/2020/html/ecb.sp200511~01209cb324.en.html
8 https://news.cgtn.com/news/2020-10-17/Explainer-How-China-s-digital-currency-different-from-e-payments--UFrMHEDYsw/index.html
9 https://www.ecb.europa.eu/pub/pdf/scpops/ecb.op201.en.pdf
10 World Bank. 2020.

This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in:

Singapore and Australia (for wholesale clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore, is exempt from the requirement to hold an Australian financial services licence and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Australian laws.


Hong Kong by Eastspring Investments (Hong Kong) Limited and has not been reviewed by the Securities and Futures Commission of Hong Kong.


This document is produced by Eastspring Investments (Singapore) Limited and issued in Thailand by TMB Asset Management Co., Ltd.


Indonesia by PT Eastspring Investments Indonesia, an investment manager that is licensed, registered and supervised by the Indonesia Financial Services Authority (OJK).


Malaysia by Eastspring Investments Berhad (531241-U).


United States of America (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is registered with the U.S Securities and Exchange Commission as a registered investment adviser.


European Economic Area (for professional clients only) and Switzerland (for qualified investors only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A., 26, Boulevard Royal, 2449 Luxembourg, Grand-Duchy of Luxembourg, registered with the Registre de Commerce et des Sociétés (Luxembourg), Register No B 173737.


United Kingdom (for professional clients only) by Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. - UK Branch, 125 Old Broad Street, London EC2N 1AR.


Chile (for institutional clients only) by Eastspring Investments (Singapore) Limited (UEN: 199407631H), which is incorporated in Singapore and is licensed and regulated by the Monetary Authority of Singapore under Singapore laws which differ from Chilean laws.


The afore-mentioned entities are hereinafter collectively referred to as Eastspring Investments.


The views and opinions contained herein are those of the author on this page, and may not necessarily represent views expressed or reflected in other Eastspring Investments’ communications. This document is solely for information purposes and does not have any regard to the specific investment objective, financial situation and/or particular needs of any specific persons who may receive this document. This document is not intended as an offer, a solicitation of offer or a recommendation, to deal in shares of securities or any financial instruments. It may not be published, circulated, reproduced or distributed without the prior written consent of Eastspring Investments. Reliance upon information in this posting is at the sole discretion of the reader. Please consult your own professional adviser before investing.

 

Investment involves risk. Past performance and the predictions, projections, or forecasts on the economy, securities markets or the economic trends of the markets are not necessarily indicative of the future or likely performance of Eastspring Investments or any of the funds managed by Eastspring Investments.


Information herein is believed to be reliable at time of publication. Data from third party sources may have been used in the preparation of this material and Eastspring Investments has not independently verified, validated or audited such data. Where lawfully permitted, Eastspring Investments does not warrant its completeness or accuracy and is not responsible for error of facts or opinion nor shall be liable for damages arising out of any person’s reliance upon this information. Any opinion or estimate contained in this document may subject to change without notice.


Eastspring Investments (excluding JV companies) companies are ultimately wholly-owned/indirect subsidiaries/associate of Prudential plc of the United Kingdom. Eastspring Investments companies (including JV’s) and Prudential plc are not affiliated in any manner with Prudential Financial, Inc., a company whose principal place of business is in the United States of America.